วันเสาร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2560

ทักทายชาวต่างชาติยังไงไม่ให้น่าเบื่อนอกเหนือจากคำว่า Hi หรือ Hello

Formal – การทักทายอย่างเป็นทางการ แบบที่ยังไม่สนิท หรือถ้าสนิทแล้วก็ยังพูดได้
  • “Good morning” “Good afternoon” “Good evening” – “สวัสดีตอนเช้า” “สวัสดีตอนกลางวัน” “สวัสดีตอนเย็น”
อันนี้แล้วแต่เวลาที่ทักทาย
  • “It’s nice to meet you.” “It’s a pleasure to meet you.” – “ยินดีที่ได้พบคุณ/ได้เจอคุณ”
มักใช้กับการพบปะกันครั้งแรก แต่ถ้าพบกันในครั้งถัดๆไปแล้ว ก็สามารถเติม “again” ตามหลังประโยคได้ เช่น “It’s nice to meet you again.” “It’s a pleasure to meet you again.”
  • “How do you do.” – “สวัสดี”
  • เป็นการทักทายอย่างเป็นทางการมาก ส่วนใหญ่จะเป็นคนอังกฤษพูดทักทายกัน
    Informal – คำทักทายที่มีความเป็นกันเองขึ้นมาหน่อย ได้แก่
    • “Morning!” – “สวัสดีตอนเช้า”
    เป็นคำย่อมาจาก “Good moning”
    • “How are you” “How are things (with you)?” “What’s new?” – “เป็นอย่างไรบ้าง”
    • ถ้าแปลกันตรงๆก็คือ “เรื่องของคุณเป็นอย่างไรบ้าง” “คุณมีเรื่องราวอะไรใหม่ๆบ้าง” คล้ายๆกับเป็นการอัพเดทชีวิตกันและกัน
      • “It’s good to see you.” – “ดีใจที่ได้พบคุณ”
      มักใช้กันคนที่ไม่ได้เจอมาซักพักนึง
      • “G’day!” ย่อมาจากคำว่า “Good day” – “สวัสดี”
      ประมาณว่า “เป็นวันที่ดีนะ”
      • “Howdy!” – “สวัสดี”
      เป็นคนทักทายโดยเฉพาะคนทางใต้ของอเมริกา
      Casual – คำทักทายที่มีความเป็นกันเองแบบเพื่อนๆคุยกัน
      • “Hey” “Hey there” “Yo!” – “สวัสดี”
      • “What’s up?” (หรือพูดย่อๆว่า “‘Sup?”) “How’s it going?” “What’s happening”
      มีความหมายโดยรวมคือ “เป็นไง” “มีไรบ้าง”
      • “How come I never see you” – “ทำไมไม่ค่อยเห็นคุณเลย”, “It’s been such a long time” – “ไม่ได้เจอกันตั้งนานแหน่ะ”, “Long time no see” – “นานแล้วนะที่ไม่ได้เจอกัน”, “Where have you been hiding” – “คุณหายไปไหนมาเนี่ย”, “It’s been ages since we last met’ – “ครั้งสุดท้ายที่เราเจอกันมันก็นานมากแล้วนะ”












ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น